พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค [2. ราธสังยุต]
2. ทุติยวรรค 6. ทุกขธัมมสูตร
พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า ราธะ รูปมีความไม่เที่ยงเป็นธรรมดา เวทนา
มีความไม่เที่ยงเป็นธรรมดา สัญญามีความไม่เที่ยงเป็นธรรมดา สังขารมีความไม่
เที่ยงเป็นธรรมดา วิญญาณมีความไม่เที่ยงเป็นธรรมดา
ราธะ อริยสาวกผู้ได้สดับเห็นอยู่อย่างนี้ ฯลฯ รู้ชัดว่า ... ไม่มีกิจอื่นเพื่อ
ความเป็นอย่างนี้อีกต่อไป
อนิจจธัมมสูตรที่ 4 จบ
5. ทุกขสูตร
ว่าด้วยสิ่งที่เป็นทุกข์
[174] เรื่องเกิดขึ้นที่กรุงสาวัตถี
ท่านพระราธะนั่ง ณ ที่สมควร ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคดังนี้ว่า ข้าแต่
พระองค์ผู้เจริญ ที่พระองค์ตรัสว่า ทุกข์ ทุกข์ ทุกข์เป็นอย่างไร
พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า ราธะ รูปเป็นทุกข์ เวทนาเป็นทุกข์ สัญญา
เป็นทุกข์ สังขารเป็นทุกข์ วิญญาณเป็นทุกข์
ราธะ อริยสาวกผู้ได้สดับเห็นอยู่อย่างนี้ ฯลฯ รู้ชัดว่า ... ไม่มีกิจอื่นเพื่อ
ความเป็นอย่างนี้อีกต่อไป
ทุกขสูตรที่ 5 จบ
6. ทุกขธัมมสูตร
ว่าด้วยสิ่งที่มีทุกข์เป็นธรรมดา
[175] เรื่องเกิดขึ้นที่กรุงสาวัตถี
ท่านพระราธะนั่ง ณ ที่สมควร ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคดังนี้ว่า ข้าแต่
พระองค์ผู้เจริญ ที่พระองค์ตรัสว่า สิ่งที่มีทุกข์เป็นธรรมดา สิ่งที่มีทุกข์เป็นธรรมดา
สิ่งที่มีทุกข์เป็นธรรมดาเป็นอย่างไร
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค [2. ราธสังยุต]
2. ทุติยวรรค 8. อนัตตธัมมสูตร
พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า ราธะ รูปมีทุกข์เป็นธรรมดา เวทนามีทุกข์
เป็นธรรมดา สัญญามีทุกข์เป็นธรรมดา สังขารมีทุกข์เป็นธรรมดา วิญญาณมี
ทุกข์เป็นธรรมดา
ราธะ อริยสาวกผู้ได้สดับเห็นอยู่อย่างนี้ ฯลฯ รู้ชัดว่า ... ไม่มีกิจอื่นเพื่อ
ความเป็นอย่างนี้อีกต่อไป
ทุกขธัมมสูตรที่ 6 จบ
7. อนัตตสูตร
ว่าด้วยสิ่งที่เป็นอนัตตา
[176] เรื่องเกิดขึ้นที่กรุงสาวัตถี
ท่านพระราธะนั่ง ณ ที่สมควร ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคดังนี้ว่า ข้าแต่
พระองค์ผู้เจริญ ที่พระองค์ตรัสว่า อนัตตา อนัตตา อนัตตาเป็นอย่างไร
พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า ราธะ รูปเป็นอนัตตา เวทนาเป็นอนัตตา
สัญญาเป็นอนัตตา สังขารเป็นอนัตตา วิญญาณเป็นอนัตตา
ราธะ อริยสาวกผู้ได้สดับเห็นอยู่อย่างนี้ ฯลฯ รู้ชัดว่า ... ไม่มีกิจอื่นเพื่อ
ความเป็นอย่างนี้อีกต่อไป
อนัตตสูตรที่ 7 จบ
8. อนัตตธัมมสูตร
ว่าด้วยสิ่งที่มีอนัตตาเป็นธรรมดา
[177] เรื่องเกิดขึ้นที่กรุงสาวัตถี
ท่านพระราธะนั่ง ณ ที่สมควร ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคดังนี้ว่า ข้าแต่
พระองค์ผู้เจริญ ที่พระองค์ตรัสว่า สิ่งที่มีอนัตตาเป็นธรรมดา สิ่งที่มีอนัตตาเป็น
ธรรมดา สิ่งที่มีอนัตตาเป็นธรรมดาเป็นอย่างไร